เปลี่ยนยางรถยนต์ตอนไหนดี? มีข้อสังเกตอย่างไรอย่างที่เจ้าของรถควรรู้ว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนยางแล้ว เนื่องจากยางรถยนต์เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของรถยนต์ ถือว่าเป็นชิ้นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนรถยนต์ไปยังทิศทางที่ต้องการและมีความแม่นยำมากขึ้น ซึ่งหากมียางรถยนต์ที่ดี มีคุณภาพ ก็จะมีความปลอดภัยในระหว่างการขับขี่มากยิ่งขึ้นไปด้วยเช่นกัน
การตรวจเช็กสภาพยางรถยนต์ รวมถึงเครื่องยนตร์ก่อนออกเดินทาง ถือเป็นหนึ่งในวิธีการเตรียมตัวที่มีความจำเป็นอย่างมาก เพราะหากมีปัญหาเกี่ยวกับยางรถยนต์ขึ้นมาระหว่างทาง อาจทำให้เสียเวลา หรืออาจร้ายแรงถึงขั้นเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ ซึ่งจะมีข้อสังเกตที่เจ้าของรถควรรู้เกี่ยวกับสภาพของยางรถยนต์ ดังนี้
การตรวจสอบว่าดอกยางเหลือน้อยเกินไปหรือไม่ สามารถสังเกตได้จากตัวบอกสภาพดอกยางหรือที่เรียกว่าสะพานยางว่ามีระดับความหนาเท่าดอกยางหรือยัง หากอยู่ในระดับเดียวกันก็ควรจะเตรียมเปลี่ยนยาง หรือใช้วิธีตรวจเช็กโดยการใช้ไม้ขีดไฟ ซึ่งจะทำการทิ่มลงไปในร่องยาง หากยังเห็นหัวไม้ขีดสีแดง หมายความว่าดอกยางเหลือน้อย และควรเปลี่ยนยางได้แล้ว
หากสังเกตเห็นว่ายางรถยนต์มีรอยขีดข่วนขนาดใหญ่ รอยแตก รอยรั่ว รอยฉีกขาด ควรเปลี่ยนยางในทันที เพราะจะส่งผลต่อคุณภาพของยางในระหว่างการขับขี่ หรือจะลองใช้เหรียญบาทในการตรวจสอบก็ได้เช่นกัน โดยการนำเหรียญบาทเสียบเข้าไปในร่องยาง หากเสียบได้เพียงครึ่งเดียวหรือน้อยกว่านั้น แสดงว่ายางเริ่มสึกหรอ และควรจะเตรียมเปลี่ยนยาง
ยางรถยนต์มีอายุการใช้งานที่จำกัด โดยปกติแล้วก็จะมีอายุประมาณ 5 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาและการใช้งาน แต่หากมีอายุเกิน 5 ปีก็ควรจะเปลี่ยนยางเพื่อความปลอดภัยที่สุด
นอกจากอายุการใช้งานแล้ว ระยะทางก็เป็นสิ่งสำคัญที่ควรตรวจเช็ก ซึ่งหากมีระยะทางประมาณ 40,000-50,000 กิโลเมตร ก็สามารถเปลี่ยนยางได้แล้ว
เมื่อขับขี่รถยนต์แล้วรู้สึกว่าควบคุมทิศทางของรถได้ยากขึ้น อาจมีการไถลไปด้านใดด้านหนึ่งมากเกินไป หรือการบังคับรถในทางตรงทำได้ยากขึ้น ซึ่งก็สามารถเกิดได้จากทั้งเครื่องยนต์หรือยางรถยนต์ก็ได้ ทางที่ดีก็ควรจะนำรถเข้าไปตรวจเช็กที่ศูนย์หรืออู่ซ่อม หรือหากรู้สึกว่าระยะเบรกยาวกว่าปกติก็ควรจะเปลี่ยนยางรถยนต์ได้เลย
หากรู้สึกว่าในระหว่างขับขี่มีการสั่นสะเทือนของรถที่มากกว่าปกติ จากล้อหรือพวงมาลัย หรือมีเสียงหอนคล้ายยางแตก ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะเกิดความเสียหายกับยางรถยนต์ หรือจู่ ๆ รถของคุณก็มีอาการกระตุกขึ้นมา การเปลี่ยนยางรถในทันทีจะช่วยป้องกันปัญหาอื่น ๆ ที่อาจจะตามมาได้
ยางรถยนต์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางใกล้หรือไกล และแน่นอนว่าคงไม่มีใครต้องการให้ยางรถยนต์เสื่อมสภาพ โดยเฉพาะในระหว่างการขับขี่ แล้วสาเหตุที่ทำให้ยางเสื่อมสภาพคืออะไร? มีอะไรบ้างที่ควรเลี่ยงหากไม่อยากให้ยางเสื่อมสภาพเร็วกว่าเดิม
เติมลมยางไม่เหมาะสม เติมลมแข็งหรืออ่อนจนเกินไป
บรรทุกน้ำหนักมากเกินไป หรือใช้รถผิดประเภท
ตั้งศูนย์ถ่วงล้อไม่เหมาะสม
ลักษณะการขับขี่ที่ไม่เหมาะสม เหยียบเบรกกะทันหันบ่อยครั้ง หรือมีการออกตัวแรงเป็นประจำ
สภาพถนนขรุขระ หรือสร้างความเสียหายให้กับล้อและยางรถยนต์
สภาพอากาศหรืออุณหภูมิก็มีผลต่อการเสื่อมสภาพของยาง
ยางเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน
ยางรถยนต์เป็นส่วนสำคัญที่เจ้าของรถจะต้องใส่ใจและหมั่นตรวจเช็กเป็นประจำ เพราะปัญหาที่เกิดกับยางรถยนต์อาจส่งผลต่อการขับขี่ได้ ไม่ว่าจะเป็น การบังคับทิศทางของรถ หรือระยะในการเบรก ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางใกล้หรือไกล การตรวจเช็กสภาพของยางรถยนต์ร่วมกับการตรวจเช็กสภาพเครื่องยนต์ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามโดยเด็ดขาด
หากคุณกำลังมองหาร้านขายยาง ต้องที่นี่เลย NVYANGYONT เพราะที่เอ็นวี ยางยนต์เป็นศูนย์จำหน่ายยางรถยนต์หลากยี่ห้อ หลากหลายรุ่นนด้วยทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ นอกจากนี้ยังสามารถให้คำแนะนำคุณในการดูแลยางรถยนต์ของคุณได้อีกด้วย
เช็กเลย! เลือกยางรถยนต์ ขอบ 15 ยี่ห้อไหนดี
ไขข้อข้องใจ! ยางรถยนต์ DUNLOP ผลิตที่ไหนดี?
5 สัญญาณเตือนว่าถึงเวลาเปลี่ยนรถยนต์หรือยัง?