บอกต่อ 5 ขั้นตอนในการตรวจเช็กยางรถยนต์เพื่อความปลอดภัย

บอกต่อ 5 ขั้นตอนในการตรวจเช็กยางรถยนต์เพื่อความปลอดภัย

การตรวจเช็กยางรถยนต์เป็นประจำก่อนออกเดินทาง สามารถทำได้ง่าย ๆ ภายใน 5 ขั้นตอน เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางใกล้หรือไกล เพราะยางรถยนต์เป็นชิ้นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัย ในบทความนี้จึงจะมาบอกต่อ 5 ขั้นตอนในการตรวจเช็กยางรถยนต์เพื่อความปลอดภัยสำหรับทุกการเดินทาง

ทำไมควรตรวจเช็กยางก่อนออกเดินทาง


ยางรถยนต์มีความสำคัญในการขับขี่และการเดินทางอย่างมาก เพราะหากเกิดความเสียหายต่อยางรถยนต์ แม้จะเป็นร่องรอยที่ไม่ใหญ่มาก หรือเป็นความเสียหายเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ในระหว่างการขับขี่อาจจะเกิดความเสียหายเพิ่มขึ้นได้ และหากเกิดปัญหายางแตก ยางระเบิด ยางรั่วในบริเวณที่ไม่มีศูนย์หรืออู่ซ่อม อาจจะทำให้เกิดความลำบากและเสียเวลามากขึ้นได้ ก่อนออกเดินทางทุกครั้งจึงควรตรวจเช็กยางรถยนต์และเครื่องยนต์ โดยเฉพาะการเดินทางไกล

ขั้นตอนในการตรวจเช็กยางรถยนต์


สำหรับผู้ที่กำลังจะเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางใกล้หรือไกล ควรจะตรวจเช็กยางรถยนต์ก่อน ซึ่งจะสามารถทำได้ง่าย ๆ ตาม 5 ขั้นตอน ดังนี้

1. เช็กความดันลมยาง

การตรวจเช็กความดันลมยางอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม และควรจะเติมลมยางให้เหมาะสมกับรถและการใช้งาน หากยางแบนหรือแข็งจนเกินไป ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อการขับขี่ได้ ซึ่งจะมีปริมาณลมยางที่เหมาะสมสำหรับรถแต่ละประเภท ดังนี้

  • รถยนต์ขนาดเล็ก ควรเติมแรงลมที่ประมาณ 25-30 ปอนด์

  • รถยนต์ขนาดกลาง ควรเติมแรงลมที่ประมาณ 30-35 ปอนด์

  • รถกระบะ (ไม่บรรทุก) ควรเติมแรงลมที่ประมาณ 35-40 ปอนด์

  • รถตู้บรรทุก 7-10 คน ควรเติมแรงลมที่ประมาณ 43-55 ปอนด์

2. เช็กดอกยาง

โดยปกติแล้วควรตรวจเช็กสภาพดอกยางทุก 6 เดือน หรือประมาณ 10,000 กิโลเมตร เพื่อดูว่าดอกยางมีความเสื่อมสภาพหรือยังเท่ากันอยู่หรือไม่ โดยจะสามารถดูได้จากบริเวณสะพานยางหรือบริเวณสันนูนที่ร่องยาง หากพบปัญหาใด ๆ ก็ควรจะเปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่ก่อนเดินทาง

3. เช็กจุกลมยางและความเสียหายของยาง

ก่อนออกเดินทาง ควรจะเช็กจุกลมยางว่ามีการปิดสนิทไว้ ซึ่งถือว่าเป็นชิ้นส่วนเล็ก ๆ ที่มีความสำคัญ และสามารถเสื่อมสภาพและเกิดการรั่วซึมได้ และตรวจดูว่ายางมีร่องรอยความเสียหาย มีบาดแผล รอยร้าว การรั่วซึมหรือไม่ 

4. เช็กอายุของยาง

อายุของยางสามารถตรวจเช็กได้จากบนแก้มยาง โดยจะมีเลข 4 หลักกำกับอยู่ ซึ่งหมายเลข 2 หลักแรก บอกถึงสัปดาห์ที่ผลิตในปีนั้น (1 ปีมี 52 สัปดาห์) และเลข 2 หลักต่อมา จะบอกถึงปี คศ. ที่ทำการผลิต โดยปกติแล้วจะมีอายุการใช้งานประมาณ 5 ปี แต่ก็จะขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนด้วย

5. การตั้งศูนย์และถ่วงล้อ

หากยางรถยนต์ไม่ได้รับการตั้งศูนย์ล้อจะทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็วขึ้น และส่งผลให้หน้ายางไม่เสมอกัน จึงควรนำรถยนต์ไปตั้งศูนย์ล้อให้เรียบร้อย และจะต้องนำรถเข้าถ่วงล้ออย่างสม่ำเสมอ เพราะจะช่วยยืดอายุการใช้งานของยางและป้องกันปัญหาดอกยางเสื่อมไม่เท่ากัน

บทสรุป

การตรวจเช็กยางก่อนออกเดินทางเป็นสิ่งสำคัญ เพราะอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ หากมีความเสียหายหรือเสื่อมสภาพของยางรถยนต์ อาจจะนำไปสู่ปัญหาอื่น ๆ มากมาย หรืออาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งหากใครที่กำลังมีแพลนเดินทางไกล สามารถนำรถยนต์เข้าไปตรวจเช็กสภาพได้ที่ศูนย์บริการต่าง ๆ หรือร้านขายยางรถยนต์อย่าง Nvyangyont เพื่อความอุ่นใจในทุกการเดินทาง

บทความเพิ่มเติม: