ยาง All Terrain เป็นอีกหนึ่งประเภทของยางรถยนต์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ไม่เฉพาะแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ในหลาย ๆ ประเทศ ยาง AT ก็เป็นที่นิยมเช่นกัน ซึ่งเรียกได้ว่าแทบทุกร้านขายยางต้องมียางรถยนต์ประเภทนี้ให้บริการ ด้วยคุณสมบัติที่ทนทานต่อการใช้งานอย่างหลากหลาย ทุกสภาพพื้นผิวถนน ไม่ว่าจะบุกน้ำ ลุยไฟ เข้าป่า ปีนเขา ยางรถยนต์ AT ก็สามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยม จึงไม่แปลกเลยที่จะกลายเป็นหนึ่งในยางรถยนต์ยอดฮิตที่สุด โดยบทความนี้เราจะพาไปรู้จักว่ายาง AT คืออะไร พร้อมข้อควรรู้เกี่ยวกับยางรถยนต์ เพื่อประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานที่สุด
ยาง A/T หรือ AT ย่อมาจาก All Terrain แปลว่า ‘ทุกสภาพภูมิประเทศ’ หรือให้เข้าใจง่ายกว่านั้น ยาง AT คือ ยางรถยนต์อเนกประสงค์ที่ถูกออกแบบมากให้สามารถใช้ได้อย่างหลากหลายสถานการณ์และพื้นผิวถนน ทั้งถนนปกติหรือถนนขรุขระ เนื่องจากยาง AT มีดอกยางหนาและลึกกว่ายางรถยนต์ประเภทอื่น จึงทำให้ยางรถยนต์ AT สามารถใช้งานได้ทั้งในเมืองที่ต้องการความรวดเร็ว โฉบเฉี่ยว หรือต่างจังหวัดที่ต้องการความทนทานของยางเป็นพิเศษ นอกจากพื้นผิวถนนขรุขระแล้ว ยาง AT ยังใช้บนพื้นดินหรือพื้นกรวดได้เป็นอย่างดีอีกด้วย เรียกได้ว่าใครที่เป็นสายเดินทางในพื้นที่ยาก ๆ จะต้องชอบยางออลเทอร์เรนนี้อย่างแน่นอน
รถประเภทไหนเหมาะสำหรับยางรถยนต์ AT
จริง ๆ แล้วจะเรียกว่ารถยนต์ทุกประเภทสามารถใช้ยางรถยนต์ AT ได้ทั้งหมดก็ไม่ผิด เพราะยาง AT ถูกออกแบบให้ใช้ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะในเมืองหรือต่างจังหวัด แม้แต่พื้นผิวขรุขระหรือเส้นทางออฟโรดก็ทนทานอย่างมาก ทำให้ยาง AT ตอบโจทย์ความต้องการอย่างหลากหลาย โดยส่วนใหญ่แล้วประเภทรถที่นิยมใช้ยาง all terrain คือ ระกระบะ (Pickup Truck) รถ SUV (Sport Utillty Vehicle) รถ 4x4 ไปจนถึงรถ Crossover บางรุ่นก็สามารถใช้ยาง AT ได้เช่นเดียกัน
เชื่อได้เลยว่ายังมีหลายคนที่ไม่รู้ว่ามีวิธีการสังเกตยางรถยนต์ AT อย่างไรว่าสามารถใช้งานต่อได้อยู่หรือไม่ แม้ว่ายางจะได้รับความเสียหายแต่บางคนยังมีความคิดที่ว่าการซ่อมแซมก็เพียงพอแล้ว ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดอย่างมาก เพราะนอกจากจะทำให้ยางรถยนต์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพแล้ว ยังเสี่ยงต่อการเกิดความเสียหายรุนแรงได้อีกด้วย เรามาดูกันดีกว่าว่าปัญหายางออลเทอร์เรนแบบไหนบ้างที่ควรเปลี่ยนอย่างเร่งด่วน แทนการซ่อมแซม
สาเหตุของการเกิดยาง AT หรือยางรถยนต์แตกอาจจะเกิดขึ้นตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตก็เป็นได้ ซึ่งผลิตออกมาไม่มีคุณภาพ ทำให้เนื้อยางแตกแยกออกจากกันเป็นรอยร้าว เสี่ยงต่อการขับขี่อย่างมาก นอกจากนี้ สำหรับสายขับขี่ด้วยความดุดันอย่าเพิ่งวางใจไป เพราะการใช้งานที่รุนแรงก็มีส่วนให้เกิดยากแตกเช่นกัน แม้ยาง all terrain จะทนทานมากก็ตาม
โดยส่วนใหญ่แล้ว อาการยางออลเทอร์เรนบวมเกิดได้บ่อยที่บริเวณแก้มยางและหน้ายาง ซึ่งสองส่วนที่สัมผัสกับพื้นผิวถนนบ่อยที่สุดเลยก็ว่าได้ โดยอาการบวมของยางนี้เกิดได้จากหลายปัจจัย ยกตัวอย่างเช่น การขี่ตกหลุมอย่างรุนแรง ส่งผลให้โครงสร้างของยางรถยนต์บิดตัวและได้รับความเสียหายนั่นเอง
แม้ว่ายาง at คือ ยางออลเทอร์เรนที่ทนทานต่อการใช้งานอย่างมาก แต่กหากขณะขับขี่โดนของมีคมหรือของแหลมแทงจนลึกก็เสียหายได้เช่นกัน โดยวิธีที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาคือการเปลี่ยนยางรถยนต์เส้นใหม่ เพราะหากเลือกปะยางอาจเสี่ยงต่อการเกิดอาการที่รุนแรงมากขึ้น ไปจนถึงอาจจะเกิดยางระเบิดได้อีกด้วย โดยเฉพาะจุดที่ถูกตำคือบริเวณแก้มยาง
การเสียค่าใช้จ่ายโดยใช่เหตุสำหรับการเปลี่ยนยางรถยนต์ AT บ่อย ๆ คงเป็นเรื่องไม่ดีอย่างแน่นอน จะดีกว่าไหมหากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและหันมาดูแลรักษายางรถยนต์ให้มากยิ่งขึ้น เพื่อยืดอายุการใช้งานของยางแทนการเปลี่ยนเส้นใหม่ ซึ่งวิธีการก็ทำได้ง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน หากไม่มีความเชี่ยวชาญ ก็สามารถนำไปเข้าร้านซ่อมรถหรือศูนย์รถให้ตรวจสภาพได้เช่นกัน จะมีวิธีการดูแลและบำรุงรักษาอย่างไรบ้าง ตามไปดูกัน
สิ่งสำคัญที่คนส่วนใหญ่มองข้ามคือ ลมยาง ซึ่งจริง ๆ แล้วการตรวจสอบลมยางเป็นประจำสามารถยืดอายุการใช้งานได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นวิธีการป้องกันการสึกหรอของยางรถยนต์ได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้ขับขี่ควรเติมลมยางให้เหมาะสมกับยางรถแต่ละคัน โดยสามารถตรวจสอบได้ที่คู่มือประจำรถที่ให้มา แต่ในกรณีที่เป็นยาง AT ควรสอบถามช่างผู้เชี่ยวชาญให้ละเอียดเกี่ยวกับลมยางที่เหมาะสมกับรถก่อนเติมลมยาง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของแต่ละคนด้วย
เมื่อไหร่ก็ตามที่รู้สึกว่ารถยนต์มีความผิดปกติ เช่น พวงมาลัยเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง ยางสึกผิดปกติ หรือกรณีที่ยางกระแทกกับวัตถุที่มีพื้นผิวแข็งบ่อยครั้ง จำเป็นต้องเข้ารับการตั้งศูนย์ในทันที เพื่อให้การขับเคลื่อนของยางมีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่กระนั้นหากไม่ประสบความผิดปกติ ควรตั้งศูนย์ทุก 20,000 กิโลเมตร
หลังจากผ่านการใช้งานมากสักระยะแล้ว ยางรถจะเกิดการสึกหรอ ซึ่งการสึกหรอนี้มักจะไม่เท่ากันในยางทุกเส้น โดยเฉพาะในตำแหน่งล้อหน้าที่มักเกิดความผิดปกติของดอกยางได้ง่ายมากที่สุด ซึ่งการสลับยางแต่ละเส้นให้ไปอยู่ในตำแหน่งอื่นสลับกันไปจะช่วยทำให้การเสื่อมหรือการสึกหรอของยางสม่ำเสมอกัน ปกติแล้วนิยมสลับยางหรือถ่วงล้อทุก ๆ 6 เดือน หรือทุก 10,000 กิโลเมตร เพื่อยืดอายุการใช้งานของยาง แต่ข้อควรระวังคือ ยางทั้ง 4 เส้นควรเป็นยางแบบเดียวกัน
สำหรับใครที่เป็นสายท่องเที่ยว ชื่นชอบการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ และกำลังมองหายางรถยนต์ที่ตอบโจทย์ทุกเส้นทางและสภาพพื้นผิว ยาง AT เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะเป็นยางรถยนต์มากความสามารถ ทนต่อการใช้งาน แม้ว่าจะเจอถนนอย่างไรก็ไม่สะทกสะท้าน รับประกันได้ว่าการเดินทางท่องเที่ยวของท่านเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่จำเป็นต้องกังวลว่ายางจะแตกระหว่างทางหรือไม่อีกต่อไป
NVYANGYONT ร้านขายยางรถยนต์ ของแท้จากศูนย์ที่ตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นล้อแม็ก ยาง AT หรือโช๊คสตรัท เป็นต้น สำหรับท่านไหนที่สนใจสามารถเข้าไปเลือกชมสินค้าต่าง ๆ ได้ที่เว็บไชต์ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-326-6374