การดูแลรักษาสภาพรถยนต์หรือยานพาหนะต่าง ๆ เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง โดยเฉพาะระบบเบรกที่ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญที่สุดของรถยนต์ เพราะหากระบบเบรกเสื่อมสภาพการใช้งานหรือไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ สิ่งที่ตามมาคือ การหยุดรถยนต์ของท่านจะไม่แม่นยำและมั่นคง ส่งผลให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ ที่รุนแรงได้ ดังนั้นแล้ว เพื่อประสิทธิภาพการใช้งานที่สูงที่สุด ควรหมั่นดูแลรักษาและทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ โดยบทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับน้ำมันเบรกคืออะไร พร้อมคำแนะนำในการสังเกตอาการผิดปกติของน้ำมันเบรก
ก่อนที่เราจะไปทำดูวิธีการตรวจสอบน้ำมันเบรก เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับน้ำมันเบรกกันให้มากขึ้น ซึ่งแม้ว่าน้ำมันเบรกจะใช้คำว่า ‘น้ำมัน’ แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่น้ำมัน แต่เป็นสารผสมจำพวกอีเทอร์ (Ether) และไกลคอล (Gylcol) นั่นเอง แต่เนื่องจากในประเทศไทยยังไม่มีคำแปลของคำว่า ‘Brake Fluid’ ที่เฉพาะตัว จึงเรียกแทนว่าน้ำมันเครื่อง เพราะมีคุณสมบัติหล่อลื่นเฉกเช่นเดียวกับน้ำมัน
โดยหน้าที่หลัก ๆ ของน้ำมันเบรก คือ การเป็นตัวกลางในการถ่ายกำลัง เปรียบเทียบให้เห็นภาพคือ เหมือนกับระบบไฮดรอลิก ซึ่งกระบวนการทำงานของระบบเบรก คือ เมื่อไหร่ก็ตามที่มีการเหยียบแป้นเบรก แรงดันที่เหยียบก็จะถูกถ่ายทอดผ่านของเหลวในระบบไปชะลอล้อทั้ง 4 เพื่อให้ความเร็วลดลง
อาการบ่งชี้น้ำมันเบรกมีปัญหา
ก่อนที่จะเกิดอาการน้ำมันเบรกหมดและเสื่อมสภาพการใช้งาน จนทำให้รถยนต์ไม่สามารถขับเคลื่อนได้จะมีสัญญาณเตือนถึงอาการที่แสดงถึงความผิดปกติของน้ำมันเบรก โดยสามารถสังเกตได้จาก 7 อาการ ดังต่อไปนี้
สาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำมันเบรกรั่วคือการปนเปื้อนสิ่งสกปรก ซึ่งทำให้ส่วนประกอบต่าง ๆ ของระบบเบรกสึกหรอหรือเสื่อมสภาพ ส่งผลให้เกิดการแตกร้าวและรั่วไหลของน้ำมันเบรก นอกจากนี้ หากได้กลิ่นไหม้จากเบรก แสดงว่าน้ำมันเบรกแห้ง จึงจำเป็นต้องมีการตรวจสภาพรถยนต์และแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน
น้ำมันเบรกที่ปนเปื้อนสิ่งสกปรก ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่ทำให้เศษชิ้นส่วนตกค้างภายในน้ำมันเบรก ซึ่งส่งผลให้เกิดเสียงผิดปกติ โดยเฉพาะขณะขับขี่ ทั้งเสียงแหลม หรือเสียงเหล็กครูดเมื่อเหยียบเบรก ทั้งนี้ เสียงผิดปกติอาจจะเกิดได้จากสาเหตุอื่นด้วย จึงจำเป็นต้องตรวจเช็กทันทีว่าเสียงผิดปกติเกิดจากอะไร ก่อนเครื่องยนต์ได้รับความเสียหายหนัก
หลายครั้งที่รู้สึกว่าการตอบสนองการเบรกของรถและแป้นเหยียบเชื่องช้าลง หรือใช้เวลาเบรกนานกว่าปกติ อาจเป็นผลมาจากน้ำมันเบรกปนเปื้อนสิ่งสกปรกหรือบางกรณีอาจเกิดจากน้ำมันเบรกแห้ง จนส่งผลให้แป้นเหยียบตอบสนองช้าลง ไปจนถึงลดทอนประสิทธิภาพการหยุดรถ
รถยนต์รุ่นใหม่ในปัจจุบันมีระบบเซนเซอร์ตรวจจับระดับน้ำมันเบรก เมื่อน้ำมันเบรกแห้งหรือปนเปื้อน ระบบเซนเซอร์จะแจ้งเตือนบนหน้าปัดรถยนต์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นสิ่งที่สะดวกอย่างมาก แต่ในกรณีที่รถยนต์ของท่านไม่มีระบบเซนเซอร์ตรวจจับระดับน้ำมันเบรก สามารถตรวจสอบได้จากอาการต่อไป
รถยนต์ที่มีน้ำมันเบรกปนเปื้อนนั้นจะไม่สามารถสร้างแรงเสียดทานที่เหมาะสมได้ ทำให้รถยนต์ไม่สามารถหยุดรถได้อย่างแม่นยำและเหมาะสม หรือก็คืออาการเบรกตอบสนองได้ไม่ดีเท่าที่ควรและประสิทธิภาพการทำงานน้อยลง
ปกติแล้ว หลังจากการใช้งานรถยนต์ไประยะหนึ่งแล้ว อาจเกิดการปนเปื้อนในน้ำมันเบรกจนทำให้เปลี่ยนสีหรือมีสิ่งแปลกปลอมที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่เกิดการเปลี่ยนสี สิ่งที่ต้องทำคือรีบเปลี่ยนในทันที เพื่อให้รถยนต์สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นแล้ว ควรหมั่นตรวจสอบว่าสีของน้ำมันเบรกอย่างสม่ำเสมอ
โดยทั่วไปแล้ว อายุการใช้งานของผ้าเบรก (Brake Pad) เฉลี่ยอยู่ที่ 50,000 - 60,000 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม อายุการใช้งานขึ้นอยู่กับคุณภาพของผ้าเบรก พฤติกรรมการขับขี่ การตรวจเช็กสภาพการใช้งาน และการดูแลรักษาด้วย
เมื่อไหร่ก็ตามที่น้ำมันเบรกแห้งหรือเสื่อมสภาพการใช้งาน จำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกในทันที ซึ่งในกรณีที่ไม่พบอาการผิดปกติใด ๆ แต่ผ่านการใช้งานมายาวนาน 1 - 2 ปี หรือทุกระยะทาง 40,000 กิโลเมตร ควรเข้ารับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกเช่นกัน เพื่อประสิทธิภาพการใช้งานของรถยนต์ที่สูงที่สุด
หนึ่งในความแตกต่างระหว่างน้ำมันเบรกและน้ำมันเกียร์คืออายุการใช้งาน ซึ่งน้ำมันเกียร์ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อยเหมือนกับน้ำมันเบรก โดยช่วงเวลาการเปลี่ยนจะต่างกันไปตามรถยนต์แต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ ทั้งนี้ ควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก ๆ 38,000 ไปจนถึง 57,000 กิโลเมตร หรือราว ๆ 2 - 3 ปีโดยเฉลี่ย
ปริมาณที่ใช้สำหรับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกนั้นไม่สามารถใช้ได้เหมือนกับกับรถยนต์ทุกรุ่น เนื่องจากความจุและความเหมาะสมแตกต่างกัน แต่ปกติแล้ว ปริมาณที่ใช้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกอย่างน้อยคือ 1 ลิตร ทั้งนี้ ควรสำรวจความเหมาะสมกับรถยนต์ของท่านก่อน
ระบบเบรกเป็นส่วนสำคัญสำหรับรถยนต์เป็นอย่างมาก ซึ่งจากคำถามว่าการทำความสะอาดเบรก จำเป็นไหม? คำตอบคือ จำเป็นและสำคัญอย่างยิ่ง เพราะหากปล่อยให้ระบบเบรกสกปรก ฝุ่นเกาะ หรือสนิมขึ้น ส่งผลให้ระบบเบรกเกิดปัญหา ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
ราคาเริ่มต้นของน้ำมันเบรกเริ่มตั้งแต่ 200 บาทไปจนถึง 1,000 บาท ทั้งนี้น้ำมันเบรกมีหลากหลายรูปแบบ แตกต่างกันออกไป ทั้งด้านยี่ห้อ รุ่น หรือประเภท ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้น้ำมันเบรกรถเก๋งราคาไม่เหมือนกัน
เมื่อไหร่ก็ตามที่ผู้ใช้รถประสบกับอาการของน้ำมันเบรกต่าง ๆ ที่กล่าวไปในบทความ ควรรีบนำไปแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานของรถยนต์และความปลอดภัยของผู้ขับขี่ แต่การแก้ไขปัญหา ควรนำไปพบช่างผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ เพื่อความถูกต้องและความแม่นยำในการแก้ไขปัญหาที่สุดนั่นเอง
NVyangyont ร้านขายยางพร้อมให้บริการอะไหล่รถยนต์ครบวงจร ไม่เพียงแต่น้ำมันเบรกเท่านั้น แต่ยังมีอะไหล่อื่น ๆ ให้บริการ ทั้งโช็คสตรัท ยางรถยนต์ หรือล้อแม็ก เป็นต้น รับประกันได้เลยว่าตอบโจทย์ทุกความต้องการของท่านอย่างแน่นอน หากใครสนใจสามารถเข้าไปเลือกชมสินค้าได้ที่เว็บไซต์ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-326-6374