เทคนิคเลือกยางรถยนต์ เลือกอย่างไรให้เหมาะกับล้อแม็ก

เทคนิคเลือกยางรถยนต์ เลือกอย่างไรให้เหมาะกับล้อแม็ก

ยางรถยนต์ เป็นชิ้นส่วนที่มีความสำคัญสำหรับการขับขี่บนท้องถนนเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นชิ้นส่วนที่จะต้องสัมผัสกับพื้นถนนโดยตรงตลอดเวลา การเลือกยางรถยนต์จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะการเลือกยางรถยนต์สำหรับการใช้งานร่วมกับล้อแม็ก เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในปัจจุบันมีการหันมาใช้งานล้อแม็กกันมากขึ้น ไม่ว่าจะด้วยดีไซน์ที่มีความสวยงาม หรือประสิทธิภาพทางด้านการใช้งานเองก็ตาม และสำหรับใครที่กำลังมองหาเทคนิคในการเลือกยางรถยนต์ให้เหมาะกับล้อแม็ก บอกได้เลยว่าบทความนี้มีประโยชน์อย่างแน่นอน!

ความสำคัญของยางรถยนต์ในการขับขี่

ยางรถยนต์มีคุณสมบัติสำคัญในการรองรับน้ำหนักบรรทุกและน้ำหนักของตัวรถระหว่างการขับขี่ ซึ่งน้ำหนักของรถจะอยู่ที่ประมาณ 1.6 ตัน หากเทียบให้เห็นภาพชัด ๆ ก็จะมีน้ำหนักเท่ากับคนประมาณ 32 คน และมีคุณสมบัติในการลดแรงกระแทกและการสั่นสะเทือนที่เกิดจากพื้นถนนในระหว่างการขับขี่ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยในเรื่องของการเปลี่ยนทิศทางการขับขี่ การขับเคลื่อนรถ การหยุดรถ และการหมุนพวงมาลัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เจ้าของรถจึงต้องมีการดูแลยางรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ ทั้งการตรวจเช็กสภาพ การเติมลมยางให้เหมาะสม และเปลี่ยนยางใหม่เมื่อถึงเวลา



บอกต่อ เทคนิคการเลือกยางรถยนต์ให้เหมาะกับล้อแม็ก

หากเจ้าของรถที่ได้เปลี่ยนมาใช้ล้อแม็ก สิ่งหนึ่งที่ควรจะตรวจเช็กและให้ความสำคัญ คือการเลือกยางรถยนต์ให้เหมาะกับล้อแม็ก ซึ่งในการเลือกยางให้เข้ากับรถก็ควรเลือกยางให้เหมาะกับเส้นรอบวงของยางที่มีความใกล้เคียงกับมาตรฐานเดิม หรือเลือกตามขนาดล้อแม็กที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง โดยที่รถยนต์ทั่วไปจะมียางรถยนต์ที่มีขนาดของหน้ากว้างไม่เกิน 225 มิลลิเมตร และไม่ควรที่จะเลือกยางรถยนต์ที่มีหน้าแคบน้อยกว่า 195 มิลลิเมตร

เลือกล้อแม็กให้เหมาะกับรถ ทำอย่างไรดี?

นอกจากการเลือกยางรถยนต์ให้เหมาะกับล้อแม็กแล้ว สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน และเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามโดยเด็ดขาด นั่นคือ การเลือกล้อแม็กให้เหมาะกับรถคู่ใจของเรานั่นเอง ซึ่งในบทความนี้จะพามาดูเทคนิคสำคัญในการเลือกล้อแม็กให้เข้ากับรถ มาดูกันว่าการที่เราจะเลือกล้อแม็กให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุด จะต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อให้การขับขี่บนท้องถนนมีความปลอดภัยมากที่สุด



สำหรับการเลือกซื้อล้อแม็กคุณภาพดีให้กับรถ จะต้องมีการพิจารณาจากหลาย ๆ ปัจจัยร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น ขนาดของล้อแม็ก, ความกว้างของล้อแม็ก, ระยะ P.C.D. ของล้อแม็ก และรูปแบบขงล้อแม็ก ซึ่งในส่วนของล้อแม็กก็สามารถแบ่งได้เป็น 4 รูปแบบที่ได้รับความนิยมและมีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย ได้แก่

  • ล้อแม็กแบบจาน (Disc Type)

  • ล้อแม็กแบบก้านใหญ่ (Spoke Type)

  • ล้อแม็กแบบก้านถี่ (Fin Type)

  • ล้อแม็กแบบลายตาข่าย (Mesh type)

ดูแลยางรถยนต์อย่างไร ไม่ให้เสื่อมสภาพเร็ว

นอกจากการเลือกยางรถยนต์ให้เหมาะกับล้อแม็กแล้ว สิ่งที่จะช่วยให้การขับขี่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากที่สุด คือ การดูแลยางรถยนต์ คอยตรวจเช็กไม่ให้เสื่อมสภาพเร็ว สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน โดยจะมีวิธีในการดูแลอย่างรถยนต์ที่สามารถทำได้เองง่าย ๆ ดังนี้

1. การเติมลมยาง

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการเติมลมยางในปริมาณที่เหมาะสมนั้นมีความสำคัญอย่างมาก เพราะหากมีการเติมลมยางที่มากหรือน้อยเกินไป จะนำไปสู่การเกิดปัญหาต่อยางรถยนต์และการขับขี่ได้

2. การตรวจสภาพยาง

การตรวจสภาพของยางรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถรับรู้ถึงประสิทธิภาพในการใช้งานของยางเท่านั้น แต่ยังเป็นการรับรู้ถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับยางและหาวิธีแก้ไขได้ทันเวลาอีกด้วย

3. การตรวจเช็กดอกยาง

การตรวจเช็กดอกยาง เป็นหนึ่งในวิธีการดูแลยางรถยนต์ที่สามารถทำได้ด้วยตนเอง หรือจะเลือกนำไปตรวจเช็กที่อู่หรือศูนย์ซ่อมก็ได้เช่นกัน โดยที่ตัวบอกสภาพดอกยางหรือสะพานยางจะที่อยู่บริเวณร่องตรงกลางบริเวณหน้ายาง

4. การตั้งศูนย์และถ่วงล้อ

การตั้งศูนย์และถ่วงล้อหลังจากมีการเปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่ ก็ถือเป็นวิธีการดูแลยางที่มีประสิทธิภาพ โดยปกติแล้วทางอู่ ศูนย์ซ่อม หรือร้านขายยางที่ไปใช้บริการ จะมีการตั้งศูนย์และถ่วงล้อเพื่อปรับให้ล้อทั้งหมดอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมให้ด้วยเช่นเดียวกัน

5. การขับขี่อย่างเหมาะสม

หากพูดถึงการดูแลยางรถยนต์ คงหนีไม่พ้นการขับขี่อย่างระมัดระวังและเหมาะสม เนื่องจากยางรถยนต์มีความจำเป็นที่จะต้องสัมผัสกับพื้นถนนโดยตรง จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายจากการขับขี่รถยนต์อย่างไม่เหมาะสมมากที่สุด

บทสรุป

การเลือกยางรถยนต์ให้มีความเหมาะสมและเข้ากับล้อแม็ก เปรียบเหมือนการเสริมกันในทางที่ดีระหว่างการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางใกล้หรือไกลก็ไม่ต้องคอยกังวล แต่อย่าลืมว่าจะต้องมีการตรวจเช็กสภาพยางรถยนต์และเครื่องยนต์เป็นประจำ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเสื่อมสภาพ และช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ทุกการเดินทาง