สปริงโหลดเป็นอุปกรณ์แต่งรถช่วงล่างชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นสปริงที่ส่งผลโดยตรงต่อความสูงของตัวรถ ทำให้รถดูเตี้ยลงอย่างเห็นได้ชัด หลายคนมักคิดว่าการที่รถเตี้ยลงจะทำให้การขับขี่ของรถมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น ในบทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับสปริงดังกล่าวว่ามันคืออะไร พร้อมข้อดี-ข้อเสียที่ไม่มีได้มีดีแค่สวยงาม
สปริง (Spring) คือส่วนที่ทำงานร่วมกันกับโช๊คอัพ ผลิตขึ้นมาจากเหล็กเส้นบิดเป็นวงกลมเกลียวขดขึ้นเป็นแท่งในระยะห่างเท่า ๆ กัน จึงทำให้มีความยืดหยุ่นค่อนข้างมาก สามารถยืดหรือหดได้ ซึ่งสปริงเป็นส่วนที่ติดอยู่ระหว่างล้อรถและตัวถัง มีหน้าที่ในการรองรับน้ำหนักของรถ รวมทั้งลดการสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นกับตัวได้
ต่อมาคือส่วนของสปริงโหลด มีความสูงน้อยกว่าสปริงปกติ เพราะมีการตัดความสูงของสปริงให้สั้นลงกว่าเดิม ส่งผลให้ช่วงล่างของตัวรถเตี้ยลงตามไปด้วย ซึ่งถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์แต่งรถที่ได้รับความนิยมอย่างมากอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีการวัดน้ำหนักค่าความแข็งอ่อนเรียกว่า ‘ค่า K’ ซึ่งใช้ในการบ่งบอกว่าสปริงแต่ละแบบนั้นแข็งพอจะรองรับน้ำหนักได้มากเท่าไหร่ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเปลี่ยนสปริงโช้คที่เหมาะสมกับการขับขี่รถยนต์บนท้องถนน
เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่รู้จักค่า K ของสปริงรถยนต์ แต่เชื่อว่าเคยได้ยินคนอื่น ๆ บอกว่าเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการขับขี่รถยนต์ ซึ่งแท้จริงแล้ว ค่า K คือ ค่าความ แข็ง/อ่อน หรือคงที่ของสปริง (SPRING RATE) ซึ่งเป็นการนำหลักวิทยาศาสตร์มาใช้ร่วมกับการขับขี่อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากที่สุด
โดยที่ค่า K มาจากหลักฟิสิกส์ตาม “กฎของฮุก (HOOK’S LAW)” หลักการทำงาน คือ สปริงจะยุบตัวตามสัดส่วนกับน้ำหนักที่กดทับนั่นเอง ซึ่งรถยนต์แต่ละแบรนด์ แต่ละรุ่น ก็จะมีการกำหนดค่า K ที่แข็งแตกต่างกัน เพื่อให้เปลี่ยนเพื่อสมรรถนะในการเกาะถนน, ทรงตัว และความนุ่มนวลในการขับขี่มากที่สุด
หนึ่งในความเข้าใจผิดที่พบบ่อยเกี่ยวกับ คือ ความสามารถยึดเกาะถนนกว่าเดิม เมื่อทำการเปลี่ยนสปริงโหลดแล้วพบว่าการยึดเกาะถนนดีขึ้น เวลาเข้าโค้งก็นิ่งขึ้น แม้จะปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามีผลต่อการยึดเกาะถนนและเวลาต้องเข้าโค้ง แต่ถ้ากล่าวถึงสาเหตุที่แท้จริงแล้ว นั่นเป็นเพราะเมื่อจุดศูนย์ถ่วงของโช้คช่วงล่างรถที่ต่ำลง ก็จะทำให้รถมีประสิทธิภาพยึดเกาะถนนมากขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง
รู้หรือไม่ว่ารถยนต์ที่เปลี่ยนเป็นสปริงรูปแบบนี้ การขับขี่ของรถจะมีความแข็งกว่าเดิม เนื่องจากสิ่งที่สูญเสียไปคือคุณสมบัติของช่วงล่างรถในการรองรับแรงกระแทกและน้ำหนักของรถ ทำให้ความนุ่มนวลของรถหายไปโดยสิ้นเชิง
นอกจากนี้ เมื่อมีการปรับเปลี่ยนสปริงที่เตี้ยลง ทำให้ค่า K แข็งขึ้นตามไปด้วย โดยส่งผลให้รถยนต์มีความแข็งขึ้น ไม่รับน้ำหนักและแรงสั่นสะเทือน ซึ่งรถที่รับแรงกระแทกไม่ได้มากเท่าที่ควร ทำให้ช่วงล่างของรถอย่างโช้ค เสื่อมสมรรถภาพตามไปด้วย โดยเฉพาะโช๊คอัพที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ถ้าหากผู้ใช้รถมักจะขับขี่รวดเร็ว ไม่ชะลอเมื่อเจอลูกระนาด หรือแม้แต่ถนนขรุขระ มั่นใจได้เลยว่าไม่นานเครื่องยนต์ช่วงล่างหรือโช๊คอัพของรถจะแตกอย่างแน่นอน
ดังนั้นแล้ว ในทางที่ดี หากอยากให้เปลี่ยนรูปแบบของสปริง ข้อควรระวังคือ การขับขี่บนพื้นที่ขรุขระ รวมทั้งผู้ขับควรปรับเปลี่ยนวิธีขับรถของตัวเองด้วยเช่นกัน เพราะจะสามารถช่วยป้องกันการเสียหายของช่วงล่างหรือโช๊คอัพที่จะตามมาในอนาคต
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคนส่วนใหญ่ที่เลือกปรับเปลี่ยนสปริงรูปแบบนี้ เพราะเหตุผลด้านความสวยงาม ซึ่งจริง ๆ แล้วก็ไม่เสมอไป ควรเรียกว่าความชอบถึงจะถูก เพราะความสวยงามของรถและจุดแข็งขึ้นอยู่กับความชื่นชอบหรือรสนิยมของแต่ละบุคคลมากกว่า ดังนั้นแล้ว จึงไม่สามารถตีความได้ว่าจะสามารถทำให้รถดูสวยงามกว่ารถทั่วไปที่ไม่ได้ใช้
แต่กระนั้น ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ชื่นชอบสปริงโหลดมากกว่าสปริงโช้คทั่วไปเช่นกัน หรือแม้ว่าจะมีข้อเสียมากกว่าสปริงทั่วไปก็ตาม นั่นเป็นสาเหตุมาจากการติดตั้งสปริงดังกล่าวจะเป็น การส่งผลให้สปริงที่ติดตั้งปรับระดับเตี้ยลงจากเดิม หรือทำให้เปลี่ยนมันก็เพิ่มความเป็นสปอร์ตมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบแต่งรถทรงสปอร์ต (Sports Car) โดยเฉพาะ
แม้จะเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับผู้ใช้รถ แต่ถ้าจะตัดสินใจปรับเปลี่ยนสปริงก็ไม่ควรมองแค่เอาความสวยงามเท่านั้น เพราะควรจะทำความเข้าใจถึงข้อดี-ข้อเสียที่จะได้รับยังไง รวมทั้งความเหมาะสมในการขับขี่ของแต่ละคนด้วย เพื่อประสิทธิภาพของรถ
หลังจา่กทำความรู้จักและทำความเข้าใจเกี่ยวกับคุณสมบัติ ความสูง การยุบตัว ข้อดี-ข้อเสีย ก็จะรวมถึงทำความเข้าใจกับความเปลี่ยนแปลงของช่วงล่างแล้ว ยังมีความต้อง การที่จะเลือกใช้อยู่ เราแนะนำว่าในเมื่อจะเปลี่ยนทั้งที ควรเลือกยี่ห้อที่ดีและมีคุณภาพสูงเลย เพื่อให้เปลี่ยนรถคู่ใจของท่านใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งในวันนี้เราจะพามาดูว่ามียี่ห้อไหนบ้าง
TEIN เป็นแบรนด์ดังจากญี่ปุ่น (Japan) ที่มีการทำงานคือ เมื่อสปริงยุบตัวน้อย โช้ครถจะนุ่มนวลไม่ต่างจากการใช้งานของสปริงเดิม แต่หากรถเกิดการยุบตัวเยอะ สปริงจะแข็งขึ้นเป็นอย่างมาก ส่งผลให้รถมั่นคงและทรงตัวได้ดี แต่กระนั้น ข้อควรระวังคือจำเป็น ต้องเลือกหรือเปลี่ยนสปริงโหลดที่มีค่า K ความแข็งเหมาะกับโช้คด้วยเช่นกัน
โดยแบ่งออกเป็น 2 แบบหลัก ๆ ด้วยกัน ได้แก่ S-TECH และ H-TECH ซึ่งแบบ S-TECH สามารถใช้งานร่วมกับโช้คเดิมได้ ทำให้รถเตี้ยลง และในส่วนของ H-TECH คือมีเกรดของเหล็กจะสูงกว่าแบบ S-TECH ซึ่งสามารถใช้ได้กับโช้คช่วงล่างเดิมได้เช่นเดียวกัน แต่จะยุบตัวได้นุ่มกว่าแบบ S-TECH แต่มันก็แลกมากับความเตี้ยที่น้อยกว่า
ดังนั้นแล้ว หากใครต้อง การสปริงที่เตี้ยมาก ๆ และมีความแข็งกว่า ไม่ต้องนิ่มมากนัก ควรเลือก S-TECH แต่สำหรับใครที่ต้อง การอยากให้เพิ่มความนุ่มนวลขณะขับขี่ แต่ยังคงความเตี้ยของรถอยู่ แนะนำว่าควรใช้ H-TECH
EIBACH จากประเทศเยอรมัน (Germany) ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นผู้นำในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะป้องกันการกัดกร่อน, โลหะผสมเหล็กสปริงที่เพิ่มความแข็งแรงสูง รวมถึงระยะเวลาใช้ที่ยาวนานอีกด้วย ดังนั้นแล้ว สปริงโหลด EIBACH มีคุณสมบัติ Progressive Spring ที่ถูกออกแบบมาเพื่อขับขี่ที่ดีที่สุดโช้คก็จะ มีความนุ่ม แม่นยำ และเกาะถนนได้ดีกว่าของสปริงที่ให้มากับรถ จึงทำให้เหมาะสำหรับผู้ใช้งานรถทั่วไป แต่กระนั้น ผู้ใช้จำเป็นต้องเปลี่ยนสปริงที่มีค่า K เหมาะสมกับรถหรือโช้คเดิมด้วย
H&R เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่นำเข้ามาจากประเทศเยอรมัน (Germany) โดยเป็นสปริงโหลดช่วงล่างประเภท Progressive มีค่า K อยู่ในระดับที่โช้คเดิมสามารถรับและใช้งานได้ ทำให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องปรับแต่งหรือเปลี่ยนโช๊คอัพใหม่
หลักการทำงานของสปริงโหลด H&R คือ โช้ครถจะนุ่มนวลและขับดีเหมือนกับรถที่ต้อง การใช้สปริงเดิม เพราะเมื่อสปริงเกิดยุบตัวไม่มากนัก แต่หากรถเกิดยุบตัวเยอะ สปริงก็จะแข็งขึ้น
เมื่อยุคสมัยปรับเปลี่ยนไป เทรนด์แต่งรถก็เปลี่ยนตามไปด้วย จึงไม่แปลกเลยที่สปริงโหลดโช้คจะเป็นที่ต้อง ตามากขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มของคนชื่นชอบรถแต่งที่มีความสปอร์ต หรือรถที่เตี้ยลง ซึ่งนอกจากเอาความสวยงามและความชอบส่วนตัวแล้ว ยังส่งผลโดยตรงต่อช่วงล่างรถและโช๊คอัพที่อาจจะได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจนถึงขั้นโช๊คอัพแตกหักได้เลยทีเดียว
สำหรับใครชื่นชอบการแต่งรถหรือกำลังมองหาร้านจำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถที่มีความสวยงามและมีคุณภาพเหมาะสมกับราคาที่ก็จะต้องจ่าย ร้านขายยาง NVYANGYONT ตอบทุกโจทย์ความต้องการอย่างแน่นอนครับ ด้วยบริการที่ครบวงจร และทีมช่างที่มากประสบการณ์