ซื้อโช๊คสตรัทมือสองดีหรือไม่? เลือกซื้ออย่างไรให้มีคุณภาพ

ซื้อโช๊คสตรัทมือสองดีหรือไม่? เลือกซื้ออย่างไรให้มีคุณภาพ

การเลือกซื้อโช๊คสตรัทมือสอง เป็นตัวเลือกในการใช้งานโช๊คสตรัทที่ได้รับความนิยม เนื่องจากโช๊คสตรัท เป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญในการขับขี่รถยนต์ แต่ก็จะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง การเลือกซื้อโช๊คสตรัทมือสองจึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนที่อาจจะมีงบที่จำกัด หรือต้องการโช๊คสตรัทในราคาที่ถูกลงนั่นเอง 

ทำไมโช๊คสตรัทมือสองเป็นที่นิยม

โช๊คสตรัทเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญและมีความจำเป็นอย่างมากสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนที่ต้องการขับขี่อย่างปลอดภัย จึงเป็นชิ้นส่วนที่จะต้องมีการตรวจสอบคุณภาพและการใช้งานอยู่เป็นประจำ เนื่องจากโช๊คสตรัทมีอายุการใช้งานประมาณ 3 ปี แต่ควรจะมีการตรวจเช็กอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งควรจะมีการตรวจเช็กทุก 80,000 กิโลเมตร 


และเมื่อมีการตรวจเช็กโช๊คสตรัทแล้วว่าต้องมีการเปลี่ยนใหม่ สิ่งที่จะต้องทำต่อไปคือการเลือกซื้อโช๊คสตรัท ซึ่งในปัจจุบันก็จะมีโช๊คสตรัทให้เลือกหลายยี่ห้อ หลายรุ่น ตามคุณสมบัติและการใช้งานของแต่ละคน และหากพูดถึงเรื่องราคา ก็คงจะหนีไม่พ้นการเลือกซื้อโช๊คสตรัทมือสอง เพราะมีราคาที่ถูกกว่า สามารถช่วยประหยัดงบหรือค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้มากขึ้น จึงเป็นสาเหตุให้การซื้อโช๊คสตรัทมือสองเป็นที่นิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อาการของโช๊คสตรัทหมดสภาพ


หากซื้อโช๊คสตรัทมือสองมาแล้ว และต้องการตรวจสอบว่าโช๊คสตรัทที่ได้ซื้อมานั้นยังมีคุณภาพหรือการใช้งานที่ดีอยู่หรือไม่ หรือเป็นของมือสองที่หมดสภาพแล้ว สามารถตรวจสอบได้จาก 2 รูปแบบ ดังนี้

1. ตรวจเช็กอาการของรถในขณะขับขี่

เนื่องจากการขับขี่รถยนต์ สามารถบอกได้ถึงคุณภาพของโช๊คสตรัทได้เช่นกัน หากในระหว่างการขับขี่มีอาการต่าง ๆ เช่น มีการสั่นสะเทือนของรถที่ผิดปกติ ซึ่งจะสามารถสังเกตได้เลยว่ารถมีการสั่นสะเทือนมากกว่าปกติ ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้าหรือด้านหลังของรถ 


นอกจากนี้ยังสามารถสังเกตได้จากการทรงตัวของรถ หากสังเกตว่ารถไม่นิ่ง หรือมีอาการส่ายแบบผิดปกติ ก็อาจจะเป็นสัญญาณเตือนว่าโช๊คสตรัทหมดสภาพ หรือไม่สามารถทำงานได้ดีเท่าที่ควร รวมถึงหากสังเกตว่ารถมีอาการโคลงเคลง หน้ารถลอยหรือเชิดแบบผิดปกติ หรือเมื่อเราเหยียบเบรกแล้วรถมีอาการหน้าทิ่ม ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายหรืออุบัติเหตุบนท้องถนนตามมาได้

2. ตรวจเช็กจากโช๊คสตรัทและช่วงล่างของรถ

นอกจากการตรวจเช็กอาการของโช๊คสตรัทในขณะขับขี่โดยการสังเกตอาการต่าง ๆ แล้ว ยังสามารถตรวจสอบโช๊คสตรัทด้วยตัวเองเบื้องต้นได้เช่นกัน ซึ่งจะสามารถตรวจเช็กได้ ดังนี้

  • ตรวจสอบรอยรั่วของโช๊คสตรัท โดยจะสามารถใช้มือลูบบริเวณโช๊คสตรัทเพื่อหาการรั่วซึมได้ 

  • ตรวจสอบการซึมของน้ำมัน ซึ่งจะสามารถสังเกตได้จากคราบน้ำมันที่เปื้อนอยู่บริเวณแกนโช๊ค

  • ตรวจสอบการคืนตัวของรถ หากลองกดไปที่บริเวณด้านหน้าหรือด้านหลังของรถ แล้วพบว่ารถมีการเด้งตัวขึ้นลงหลายครั้ง ถือเป็นอาการที่ผิดปกติ และบ่งบอกว่าโช๊คสตรัทหมดสภาพแล้ว

  • ตรวจสอบจากเสียงของโช๊คสตรัทในระหว่างการขับขี่ เนื่องจากการเสื่อมสภาพของโช๊คสตรัทจะส่งผลให้มีเสียงที่ผิดปกติจากบริเวณช่วงล่าง

  • ตรวจสอบจากสภาพดอกยาง โดยการลองลูบหน้ายางแบบย้อนกลับ หากลูบแล้วรู้สึกสะดุดก็อาจเป็นเพราาะโช๊คสตรัทมีปัญหา หรือสังเกตได้จากการที่หน้ายางไม่เรียบ มีลักษณะเป็นบั้ง ๆ

  • ตรวจสอบจากการบิดเบี้ยว ผิดรูปทรง หรือมีความโค้งงอที่ผิดปกติของโช๊คสตรัท

  • ตรวจสอบจากสภาพโช๊คสตรัทหลังจอดรถ หากลองสัมผัสกับตัวโช๊คแล้วรู้สึกว่าไม่มีความร้อน หรือมีอุณหภูมิปกติ แสดงว่าโช๊คสตรัทมีการทำงานแบบผิดปกติ

ข้อควรระวังในการซื้อโช๊คสตรัทมือสอง


แม้ว่าโช๊คสตรัทมือสองจะเป็นที่นิยมและมีการซื้อขายจำนวนมาก แต่การซื้อสินค้ามือสองทุกชนิด จะต้องคำนึงถึงคุณภาพและการใช้งานของสิ่งนั้น ๆ ด้วย โดยเฉพาะโช๊คสตรัทที่มีความสำคัญต่อการขับขี่รถยนต์อย่างมาก ก่อนที่จะเลือกซื้อโช๊คสตรัทมือสองก็จะต้องมีการตรวจเช็กคุณภาพและประสิทธิภาพในการใช้งานก่อนทุกครั้ง เพื่อให้สามารถนำมาใช้งานต่อได้ดี และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับการซ่อมแซม

บทสรุป

การซื้อโช๊คสตรัทมือสองเป็นทางเลือกสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนที่ต้องการโช๊คสตรัทในราคาที่ถูกลง และสามารถหาซื้อได้ง่าย แต่หากใครที่มีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องของคุณภาพหรือการใช้งานของโช๊คสตรัทมือสอง สามารถเลือกซื้อโช๊คสตรัทจาก Nvyangyont รับประกันว่าโช๊คสตรัททุกชิ้นมีคุณภาพและสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอย่างแน่นอน เนื่องจากเราเป็นร้านขายยางที่มีบริการเกี่ยวกับยางรถยนต์ โช๊คสตรัท และอุปกรณ์เสริมสำหรับรถยนต์แบบครบวงจร

บทความเพิ่มเติม: