เคล็ดลับ การดูแลรักษาโช๊คสตรัท เพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้น!

เคล็ดลับ การดูแลรักษาโช๊คสตรัท เพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้น!

โช๊คสตรัทเป็นส่วนประกอบสำคัญของรถยนต์ เพราะเป็นส่วนหลักในการรับน้ำหนักของรถยนต์ รวมไปถึงการรับแรงกระแทก หากใช้งานโช๊คสตรัทที่หมดอายุการใช้งาน หรือเสื่อมสภาพ อาจส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อส่วนอื่น ๆ ของรถยนต์ได้ รวมไปถึงอาจทำให้ผู้ใช้งานหรือผู้โดยสารในรถได้รับอาการบาดเจ็บจากแรงกระแทกที่เกิดขึ้นกับรถด้วย โดยในบทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับโช๊คสตรัทกันว่าคืออะไร เพื่อทำความเข้าใจให้มากขึ้น พร้อมแนะนำเคล็ดลับการดูแลรักษาโช๊คสตรัทให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากยิ่งขึ้น


โช๊คสตรัท คืออะไร


ก่อนที่เราจะไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลรักษาโช๊คสตรัท เรามาทำความรู้จักกับโช๊คสตรัทกันก่อนว่าคืออะไร ซึ่งมั่นใจได้เลยว่าหลายคนคงเคยคุ้นหูอย่างแน่นอนกับคำว่า ‘โช๊คสตรัท’ แต่ก็ยังไม่มั่นใจว่าคืออะไร ทำหน้าที่อะไร โดยโช๊คสตรัท (Strut) เป็นชิ้นส่วนหรือส่วนประกอบของรถยนต์ที่ทำงานร่วมกันกับ โช๊คอัพ (Shock Absorber) และสปริง (Spring) ซึ่งหน้าที่ของโช๊คสตรัทคือการรองรับน้ำหนักของตัวรถ และรับแรงกระแทกจากการขับขี่ที่เกิดจากพื้นผิวถนนขรุขระ เพื่อให้การขับขี่ของรถมีความเสถียร มั่นคงและมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น


โช๊คสตรัทเสื่อมสภาพ อันตรายไหม?

เป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่า หากอะไหล่หรือส่วนประกอบของรถเกิดความเสียหายหรือเสื่อมสภาพการใช้งาน ส่งผลให้เกิดอันตรายไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง ซึ่งโช๊คสตรัทหมดอายุการใช้งาน ได้รับความเสียหาย และเสื่อมสภาพ ควรเปลี่ยนหรือซ่อมแซมในทันที เพื่อป้องกันอันตรายและอุบัติเหตุ โดยโช๊คสตรัทเสื่อมสภาพนั้นจะส่งผลต่อรถยนต์ ดังต่อไปนี้

  • ระบบเบรกของรถไม่มั่นคง ทำให้ระยะเบรกเพิ่มมากขึ้น

  • รถเกิดอาการโคลงเคลง โดยเฉพาะขณะเลี้ยวเข้าโค้ง หรือสลับเลน

  • หน้ายางรถยนต์เสื่อมสภาพ สึกหรอได้ง่าย

  • รถไม่เกาะพื้นผิวถนน ส่งผลให้ควบคุมรถได้ยากมากขึ้น

  • เกิดแรงกระแทก แรงสั่นสะเทือนต่อรถ และผู้ขับขี่ค่อนข้างมาก


เคล็ดลับ! วิธีดูแลรักษาโช๊คสตรัท เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานมากขึ้น

จุดประสงค์เดียวของการดูแลรักษาโช๊คสตรัทคือ การคงสภาพการใช้งาน หรือก็คือยืดอายุการใช้งานของโช๊คสตรัทให้ยาวนานมากยิ่งขึ้น เพื่อให้การทำงานของโช๊คสตรัท รวมไปถึงเครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุด เรามาดูกันดีกว่าว่าการดูแลรักษาโช๊คสตรัท ควรทำอย่างไรบ้าง

เลือกใช้งานให้เหมาะสม

ในส่วนนี้เป็นขั้นตอนการเลือกซื้อหรือเลือกเปลี่ยนโช๊คสตรัท ซึ่งไม่ใช่รถยนต์ทุกประเภทที่เหมาะกับโช๊คสตรัทแบบเดียวกัน เนื่องจากรถยนต์แต่ละประเภทมีการออกแบบและการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นแล้ว ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับรถยนต์ของตนเองว่าเหมาะสมกับโช๊คสตรัทแบบไหน เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

ตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ

การตรวจสอบโช๊คสตรัทให้สม่ำเสมอเป็นพื้นฐานการดูแลรักษาโช๊คสตรัท ซึ่งควรตรวจสอบการใช้งานทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร หรือหลังการใช้งานหนัก เพื่อสำรวจว่าโช๊คสตรัทยังคงสภาพการใช้งานที่ดีหรือไม่ หากพบอาการผิดปกติ แม้ว่าจะเป็นส่วนน้อย ไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาด เพื่อไม่ให้ความเสียหายรุนแรงมากขึ้น และเสี่ยงต่อการกระทบกับการงานของชิ้นส่วนช่วงล่างส่วนอื่น ๆ

การทำความสะอาด

สิ่งสกปรกที่ติดอยู่บนโช๊คสตรัทเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้โช๊คสตรัทได้รับความเสียหายและเสื่อมสภาพการใช้งานได้ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น หิน ดิน หรือโคลน เป็นต้น ซึ่งสิ่งสกปรกดังกล่าวนี้จะทำให้โช๊คสตรัทแข็ง ทำให้โช๊คสตรัททำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นแล้ว ควรเช็คล้างทำความสะอาดเป็นประจำ เพื่อคงสภาพการใช้งานของโช๊คสตรัท

การบรรทุก

รถยนต์แต่ละประเภทมีช่วงล่างที่ถูกออกแบบมาแตกต่างกัน เพื่อการใช้งาน รวมถึงการบรรทุกน้ำหนักที่แตกต่างกัน ซึ่งการบรรทุกน้ำหนักของรถยนต์นั้นควรอยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่บรรทุกน้ำหนักมากเกินกว่ารถยนต์สามารถรับไหว เพราะจะทำให้โช๊คสตรัทที่เป็นส่วนสำคัญในการรับน้ำหนักเกิดความเสียหายได้ อีกทั้ง หากมีการใช้งานหรือโช๊คสตรัททำงานหนัก จะส่งผลต่อประสิทธิภาพและอายุการใช้งานสั้นลงตามไปด้วยนั่นเอง

การขับขี่

โช๊คสตรัทเป็นส่วนสำคัญในการรับน้ำหนักและแรงกระแทกที่เกิดขึ้นต่อตัวรถ ซึ่งหากผู้ใช้งานมีการขับขี่ที่หนักหน่วง จะส่งผลให้โช๊คสตรัทได้รับความเสียหาย และเสื่อมสมรรถภาพการใช้งาน ดังนั้นแล้ว เพื่อดูแลรักษาและยืดอายุการใช้งานของโช๊คสตรัท ควรหลีกเลี่ยงการขับขี่บนพื้นผิวถนนที่ขรุขระ ไม่เรียบ หรือมีหลุมบ่อ เพราะจะส่งผลให้โช๊คสตรัททำงานหนัก และยิ่งขับขี่ด้วยความเร็วสูง อาจทำให้โช๊คสตรัทแตกหักได้

อายุการใช้งาน

โช๊คสตรัททุกชิ้นมีอายุการใช้งานอยู่ ซึ่งอายุการใช้งานเป็นช่วงที่โช๊คสตรัทสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากโช๊คสตรัทหมดอายุการใช้งาน จำเป็นต้องเปลี่ยนในทันที แม้ว่าโช๊คสตรัทยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่เสียหาย โดยปกติแล้วอายุการใช้งานของโช๊คสตรัทแต่ละชิ้นไม่เท่ากัน ซึ่งปกติแล้วควรเปลี่ยนทุก 50,000 - 100,000 กิโลเมตร หรือทุก ๆ 3 ปี ขึ้นอยู่กับรุ่นและการใช้งานของแต่ละคน

บทสรุป

การดูแลรักษาโช๊คสตรัทเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่เคยมองข้ามสำหรับผู้ใช้รถยนต์ เพื่อรักษาประสิทธิภาพการทำงานของรถยนต์ให้อยู่ในสภาพสูงที่สุด รวมไปถึงยังเป็นการป้องกันความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น หากโช๊คสตรัทไม่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเพราะหมดอายุการใช้งาน การได้รับความเสียหาย หรือการเสื่อมสภาพการใช้งาน


หากใครกำลังมองหาโช๊คสตรัทหรืออะไหล่แต่งรถให้แก่รถคู่ใจ NVyangyont ร้านขายยางที่มีบริการเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ของรถยนต์อย่างครอบคลุม มั่นใจได้เลยว่าตอบโจทย์ทุกความต้องการของท่านอย่างแน่นอน สามารถเข้าไปเลือกชมได้ที่เว็บไซต์ หรือติดต่อสอบถามที่เบอร์ 02-326-6374