ดอกยางรถยนต์ เป็นส่วนสำคัญสำหรับการขับขี่รถยนต์ เนื่องจากเป็นส่วนที่ต้องมีการสัมผัสกับพื้นถนนโดยตรง ทำให้การเดินทางมีความปลอดภัย แถมยังสามารถรีดน้ำในขณะขับรถเมื่อถนนเปียกได้อีกด้วย ซึ่งในบทความนี้จะพามาทำความรู้จักกับดอกยางรถยนต์ และความสำคัญของดอกยางรถยนต์ที่จะช่วยให้ทุกการขับขี่ของคุณมีความปลอดภัยมากที่สุด
ดอกยางรถยนต์ คือ ส่วนของหน้ายางรถยนต์ที่มีการสัมผัสกับพื้นผิวถนนในระหว่างขับขี่รถยนต์ มีส่วนช่วยในการยึดเกาะถนน และยังสามารถรีดน้ำในขณะขับขี่ช่วงฝนตก เนื่องจากทำให้พื้นถนนมีความลื่น ดอกยางจึงมีความสำคัญในการขับขี่รถยนต์อย่างมาก ทำให้การขับขี่มีความปลอดภัย
บล็อกดอกยาง คือ ส่วนหน้ายางรถยนต์ที่นูนขึ้นมา มีการสัมผัสกับพื้นถนนโดยตรง
แนวดอกยาง คือ แนวของบล็อกดอกยางที่มีการเรียงตัวต่อเนื่อง เรียงไปตามเส้นรอบวงของยาง
ร่องดอกยางเล็ก คือ ร่องเล็ก ๆ ลักษณะเป็นลวดลายอยู่ในบล็อกดอกยาง โดยจะมีการเพิ่มขอบฟันปลาเข้าไป เพื่อเพิ่มสมรรถนะในการยึดเกาะถนนมากขึ้น
ร่องดอกยางละเอียด คือ ช่องที่มีลักษณะเป็นลวดลายตามดอกยาง เพื่อช่วยรีดน้ำออกจากยาง
ร่องยาง คือ แนวร่องตามเส้นรอบวงของยาง อยู่ระหว่างแนวดอกยาง
สามารถแบ่งลายของดอกยางรถยนต์ได้เป็น 3 ลักษณะ ดังนี้
ดอกยางทิศทางเดียว (Directional)
ดอกยาง 2 ทิศทาง (Non-Directional)
ดอกยางไม่สมมาตรกัน (Asymmetric)
ดอกยางแบบละเอียด (Rib Pattern) เป็นยางรถยนต์ที่มีลักษณะเป็นแนวยาวบนหน้ายางตามวงรอบของยาง มีรูแบบเรียงตัวของร่องยาง โดยจะเน้นใช้งานได้ดีในสภาพถนนเรียบ
ดอกยางแบบบั้ง (Lug Pattern) เป็นยางรถยนต์ที่มีดอกยางและร่องยางเป็นแนวขวางกับเส้นรอบวงของยาง ซึ่งเป็นดอกยางที่มีความลึกและมีอายุการใช้งานยาวนาน เหมาะสำหรับการใช้งานบนถนนที่มีความขรุขระ หรือถนนทางเรียบความเร็วในระดับต่ำหรือปานกลาง
ดอกยางแบบผสม Rrib Lug Pattern) เป็นยางรถยนต์ที่มีการผสมระหว่างดอกยางทั้งสองแบบ โดยจะมีดอกยางแบบละเอียดอยู่ตรงกลาง และมีดอกยางแบบบั้งอยู่รอบนอกทั้งสองด้าน
ดอกยางแบบบล็อก (Block Pattern) เป็นยางรถยนต์ที่มีลักษณะเป็นจุด หรือเป็นก้อน และอาจมีรูปทรงแบบวงกลมหรือเหลี่ยม เหมาะสำหรับการใช้งานแบบออฟโรด หรือเน้นใช้งานแบบลุยโคลนหรือทราย
การตรวจเช็กดอกยางรถยนต์ เป็นสิ่งที่ควรทำเป็นประจำก่อนออกเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางใกล้หรือไกล โดยปกติแล้ว ผู้ขับขี่ทุกคนควรตรวจเช็กสภาพดอกยางทุก 6 เดือน หรือประมาณ 10,000 กิโลเมตร ซึ่งจะมีวิธีการเช็กความเสื่อมสภาพของดอกยางอยู่หลายวิธี ได้แก่
สะพานยาง สามารถใช้ในการตรวจสอบดอกยางรถยนต์ โดยจะช่วยวัดความสูงของดอกยางหรือบริเวณสันนูนที่ร่องยาง เพื่อตรวจสอบว่ามีความหนาอยู่ในระดับเดียวกับดอกยางแล้วหรือยัง หากมีความหนาอยู่ในระดับเดียวกันแล้ว ก็จะต้องเปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่
เหรียญบาท สามารถใช้ในการตรวจสอบดอกยางรถยนต์ โดยการนำเหรียญบาทมาวางลงในช่องระหว่างดอกยาง หากสังเกตว่าความสูงของดอกยางมีขนาดต่ำกว่า ⅓ ของเหรียญบาท แสดงว่าดอกยางรถยนต์เหลือน้อย หรือใกล้จะหมดแล้ว
ไม้ขีดไฟ สามารถใช้ในการตรวจสอบดอกยางรถยนต์ โดยจะใช้ไม้ขีดไฟทิ่มลงไปในร่องยาง หากทิ่มไม้ขีดไฟลงไปแล้วยังเห็นหัวไม้ขีดสีแดง แสดงว่าดอกยางเหลือน้อย และควรเปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่ได้แล้ว
ไม้บรรทัด สามารถใช้ในการตรวจสอบดอกยางรถยนต์ โดยจะใช้ไม้บรรทัดวางลงตั้งฉากกับตัวยาง หากพบว่ามีความสูงต่ำกว่า 3 มิลลิเมตร แสดงว่าดอกยางรถยนต์เหลือน้อยแล้ว
ในระหว่างการขับขี่ ให้ลองสังเกตว่ายางรถยนต์มีเสียงดัง ขับขี่ไม่นุ่มนวลเหมือนเดิม ยางรถยนต์มีความแข็ง รับแรงกระแทกได้ไม่ดี ซึ่งอาจเกิดจากดอกยางรถยนต์เสื่อมสภาพ
ดอกยางมีความสำคัญอย่างมากกับยางรถยนต์ และเป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับการขับขี่รถยนต์ให้มีความปลอดภัยมากที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ดอกยางรถยนต์จะมีการเสื่อมสภาพ จึงต้องมีการตรวจสอบหรือตรวจเช็กทุกครั้งก่อนออกเดินทาง หรือต้องตรวจสอบทุก 6 เดือน หรือประมาณ 10,000 กิโลเมตร โดยจะมีวิธีการตรวจสอบด้วยตัวเองอยู่หลายวิธี
และสำหรับใครที่ไม่สะดวกในการตรวจเช็กด้วยตัวเอง ก็สามารถใช้บริการได้ที่ NVYANGYONT ร้านขายยางรถยนต์ ที่มีบริการตรวจเช็กสภาพยางรถยนต์และเปลี่ยนยางรถยนต์ให้กับรถทุกประเภทด้วยบริการจากประสบการณ์หลายสิบปีและทีมงานที่มีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ
5 สัญญาณเตือนว่าถึงเวลาเปลี่ยนยางรถยนต์แล้วหรือยัง?
5 ขั้นตอน การเช็คยางของคุณเพื่อความปลอดภัย
วิธีการดูแลรักษายางรถยนต์ ดูแลอย่างไรไม่ให้เสื่อมสภาพเร็ว