ยางรถยนต์เกิดการฉีกขาดหรือความเสียหายอื่น ๆ นั้นเป็นเรื่องปกติที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับการใช้งาน ความเหมาะสม และการบำรุงรักษาของผู้ใช้ เป็นต้น แต่กระนั้น ยางรถยนต์ฉีกขาดนอกจากจะทำให้เกิดความเสียหายแล้ว ยังส่งผลต่อความปลอดภัยและสมรรถนะในการขับขี่เป็นอย่างมาก ดังนั้นแล้ว จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้ใช้รถจำเป็นต้องหมั่นดูแลให้สม่ำเสมอ เพื่อให้ยางรถยนต์สามารถใช้งานได้ยาวนานมากขึ้นนั่นเอง
ก่อนที่เราจะไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุการเกิดความเสียหายของยางรถยนต์ เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างของยางรถยนต์กันก่อนว่ามีอะไรบ้าง เพื่อประกอบการพิจารณาเลือกซื้อและซ่อมแซมยางรถยนต์ เมื่อเกิดความเสียหายอย่างการฉีกขาด
โดยส่วนประกอบหรือโครงสร้างของยางรถยนต์นั้นหลัก ๆ แล้วประกอบไปด้วย 6 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ หน้ายาง, ไหล่ยาง, แก้มยาง, ขอบยาง, โครงยาง และผ้าใบเสริมยาง โดยเรามาดูกันดีกว่าว่าโครงสร้างของยางรถยนต์แต่ละส่วนนั้นคืออะไร และทำหน้าที่อะไร
หน้ายาง (Tread)
เป็นส่วนที่อยู่ด้านนอกยางและสัมผัสกับพื้นผิวถนนโดยตรง ส่งผลให้การยึดเกาะถนน ระยะเบรกมีแต่ตะกรุม รวมถึงยังเป็นส่วนสำคัญที่มีหน้าที่ป้องกันของมีคมที่อาจเป็นอันตรายต่อโครงยางอีกด้วย โดยแบ่งได้ 3 ส่วนย่อย ดังต่อไปนี้
ดอกยาง : ส่วนที่สัมผัสกับถนน มีหน้าที่สำคัญคือการเกาะถนน
ร่องยาง : เป็นร่องระบายน้ำ หรือรีดโคลน
ร่องเล็กบนดอกยาง : มีหน้าที่ในการเกาะถนน ทำให้ดอกยางยืดหยุ่นมากขึ้น
เป็นส่วนที่มีเนื้อยางค่อนข้างหนา มีหน้าที่ป้องกันอันตรายจากสิ่งต่าง ๆ ต่อโครงยาง ซึ่งส่วนไหล่ยางนี้มีการออกแบบเป็นร่อง เพื่อให้เหมาะสมกับการกระจายความร้อนที่สะสมภายในยางรถยนต์ ทำให้สมรรถนะโดยรวมของยางรถยนต์และรถดีขึ้นด้วย
ส่วนนอกสุดของยางรถยนต์ ซึ่งไม่ได้เป็นส่วนที่สัมผัสกับพื้นผิวถนน แต่มีหน้าที่สำคัญคือการปกป้องโครงยางจากอันตรายต่าง ๆ โดยมีความยืดหยุ่นสูง เพื่อปรับสภาพให้สอดคล้องกับการใช้งานของรถยนต์ นอกจากนี้ ส่วนแก้มยางเป็นส่วนที่เกิดความเสียหายได้บ่อยมากที่สุดในหมู่โครงสร้างของยางรถยนต์
เรียกได้ว่า ‘โครงยาง’ เป็นส่วนประกอบสำคัญของรถยนต์เลยก็ว่าได้ ซึ่งมีหน้าที่ในการรักษาความดันของลมยางรถยนต์ เพื่อรับน้ำหนักบรรทุก รวมไปถึงเสริมความแข็งแรง ทนทานต่อแรงกระแทกและการใช้งานได้เป็นอย่างดี
มีรูปร่างลักษณะคล้ายคลึงกับเส้นลวดเหล็กกล้า (ขึ้นอยู่กับวัสดุตามโรงงานผู้ผลิต) เป็นส่วนยึดปลายทั้ง 2 ข้างของโครงยางไว้ เพื่อให้มีความแข็งแรง ยึดแน่นสนิทกับกระทะล้อได้ดี อีกทั้งยังมีส่วนช่วยสำคัญในการป้องกันลมยางไม่ให้รั่วซึมอีกด้วย สำหรับยางรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ที่ไม่มียางใน หรือที่เรียกกันว่า ยางเรเดียล (Radial Tire) นั่นเอง
ผ้าใบเสริมบาง หรือเรียกอีกอย่างว่า เข็มขัดรัดหน้ายาง (Belt) เป็นส่วนสำคัญที่เพิ่มความแข็งแรงของยางให้มากขึ้น เพื่อรองรับสภาพพื้นผิวถนนที่แตกต่างกันได้อย่างหลากหลาย รวมไปถึงเป็นการช่วยลดโอกาสเกิดความเสียหายกับโครงยาง ซึ่งเป็นชั้นที่อยู่ระหว่างหน้ายาง, โครงยาง และยางเรเดียล เรียกว่า เข็มขัดรักหน้ายาง นั่นเอง
ยางรถยนต์เป็นส่วนประกอบของรถที่เรียกได้ว่าได้รับความเสียหายบ่อยที่สุดเลยก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นส่วนที่อยู่นอกสุด อีกทั้งยังสัมผัสกับพื้นผิวถนน รวมไปถึงสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ โดยตรง จึงไม่แปลกเลยที่ยางรถยนต์จะเกิดความเสียหายบ่อย
หนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ยางรถยนต์เกิดความเสียหายคือ สภาพพื้นผิวถนน โดยเฉพาะถนนที่มีเศษดิน เศษหินที่แหลมคม รวมไปถึงถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ ซึ่งหากเกิดการเสียดสีอย่างรุนแรง มีโอกาสที่จะทำให้ยางรถยนต์ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงได้ ดังนั้นแล้ว ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางในพื้นที่ที่มีพื้นผิวถนนไม่สมบูรณ์ แต่หากไม่สามารถเลี่ยงได้ ควรลดความเร็ว เพื่อไม่ให้ยางรถยนต์เสียดสีอย่างรุนแรงแทน
มั่นใจได้เลยว่าผู้ใช้รถใช้ถนนหลายคนมองข้ามเรื่องลมยางของรถอ่อนลง ซึ่งมักจะคิดว่ายังไปได้อยู่ แต่หารู้ไม่ว่าลมยางอ่อนนี่แหละเป็นสาเหตุที่ทำให้ยางรถยนต์ฉีกขาดและเสื่อมสภาพการใช้งาน อีกทั้งยังส่งผลให้รถกินน้ำมันมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย ทั้งนี้ควรหมั่นตรวจสอบลมยางของรถ และเติมลมยางให้เหมาะสมกับรถยนต์แต่ละชนิด โดยสามารถเช็คได้จากสติกเกอร์ทางฝั่งที่นั่งคนขับว่าควรเติมลมยางเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม
ยางรถยนต์ที่ถูกเสียดสี ส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่าง รอยแตกหรือรอยถลอกได้ ซึ่งเหตุการณ์ที่พบเห็นได้อยู่บ่อยครั้งคือ ยางรถยนต์เสียดสีกับขอบข้างทาง ไม่ว่าจะเป็นทางเท้า หรือเกาะกลางถนน และการขับรถในพื้นที่ซอยแคบ ๆ ที่เสี่ยงต่อการโดนเสียดสีก็เป็นสาเหตุเช่นกัน
การจอดหรือการเก็บรักษารถเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญ แม้ว่าจะไม่มีการใช้งานยางรถยนต์หรือใช้งานไม่บ่อยครั้ง ก็จำเป็นต้องเก็บรักษาให้ถูกต้องและเหมาะสม โดยการวางในพื้นที่ที่ไม่ชื้น ไม่สัมผัสกับลม และไม่โดนความร้อนหรือแสงแดดตลอดเวลา รวมไปถึงไม่ควรวางยางรถยนต์ซ้อนกันมากจนเกินไป ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้จะทำให้ยางรถยนต์เสื่อมสภาพได้
แม้ว่ากรณีนี้จะไม่ได้พบเห็นกันบ่อยครั้ง แต่จริง ๆ แล้ว สัตว์กัด แทะ หรือทำลายยางรถยนต์ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน เพราะเล็บหรือฟันของสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นสุนัขหรือแมวก็มีความคมเป็นอย่างมาก ซึ่งอาจทำให้ยางรถยนต์เกิดรอยรั่ว รอยฉีกได้ นอกจากนี้ ไม่เพียงแต่ยางรถยนต์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงกันชน ตัวรถ และอื่น ๆ ก็สามารถได้รับความเสียหายจากสัตว์ได้เช่นเดียวกัน
หากพูดถึงการซ่อมแซมยางรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายแล้ว ไม่สามารถกล่าวอย่างแน่นอนได้ว่าสามารถซ่อมแซมได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ โดยแบ่งออกเป็น 2 กรณีได้ดังนี้
ส่วนใหญ่มักเป็นปัญหาเล็กน้อย ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างหลังของยางรถยนต์ ยกตัวอย่างเช่น รอยแตก รอยฉีกตื้นที่ไม่ลึกมากกว่า 1 นิ้ว หรือรอยฉีกขาดที่ไม่ได้อยู่ในจุดรับน้ำหนักหลักของยางรถยนต์ ดังนั้นแล้ว กรณีเหล่านี้สามารถซ่อมแซมได้ โดยช่างผู้เชี่ยวชาญด้วยวิธีการปะ เพื่อยืดอายุการใช้งานของยางให้ยาวนานขึ้น
ในกรณีนี้เป็นความเสียหายที่รุนแรง และไม่สามารถแก้ไขได้โดยการปะ หรือซ่อมแซมต่าง ๆ ทำให้จำเป็นต้องเลือกวิธีการเปลี่ยนยางรถยนต์เส้นใหม่แทน เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่และประสิทธิภาพของรถ ยกตัวอย่างอาการรุนแรง เช่น รอยฉีกขาดยาวมากกว่า 1 นิ้ว รอยแตกหลายจุด รอบยางรถยนต์ อีกทั้งกรณีที่ยางรถยนต์หมดอายุการใช้งานหรือเสื่อมสภาพ ควรเปลี่ยนใหม่จะเป็นวิธีที่ดีที่สุด
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ผู้ใช้งานควรเลือกใช้ยางรถยนต์ที่มีคุณภาพสูง เหมาะสมกับรถ รวมถึงควรตรวจสอบสภาพยางรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ จะสามารถช่วยยืดอายุการใช้งานของยางรถยนต์และเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ได้อีกด้วย
NVyangyont ร้านขายยางที่มีบริการเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ของรถยนต์อย่างครอบคลุม มั่นใจได้เลยว่าตอบโจทย์ทุกความต้องการของท่านอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น ยางรถยนต์ ล้อแม็ก สปริงโหลด หรือโช๊คสตรัท ทางร้านก็พร้อมให้บริการอย่างครบครัน